หลวงปู่ครูบาแก้ว กมฺมสุทโธ
วัดร่องดู่
อ.จุน จ.พะเยา
ยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม
พระอริยสงฆ์แห่งแผ่นดินล้านนา
สนใจเช่าบูชาูวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาแก้ว
Click ที่นี่ได้เลยครับ
หลวงปู่ครูบาแก้ว
(แก้วมา) กมฺมสุทโธ อายุ
89 ปี (พ.ศ. 2550) เจ้าอาวาสวัดร่องดู่ หมู่ 10 ต.จุน อ.จุน จังหวัดพะเยา อำเภอจุนเป็นอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่ง อยู่ห่างตัวเมืองพะเยาไป 40
กว่ากิโลฯ ท่านที่จะเดินทางไปที่วัดให้เลี้ยวขวาตรงสี่แยกแม่ต๋าตรงไปอำเภอจุนอีก 40 กว่ากิโลฯ ก็จะถึงตัวอำเภอจุน ถามคนแถวนั้นก็จะรู้จักวัดร่องดู่
อยู่เลยอำเภอจุนไปอีกนิดเดียวก็ถึงปากทางเข้าวัดอยู่ทางขวามือ
ประวัติหลวงปู่ครูบาแก้ว กมฺมสุทโธ เจ้าอาวาสวัดร่องดู่
ครูบาแก้ว เกิดเมื่อปี
พ.ศ.2461 ณ บ้านร่องดู่ อ.จุน จ.พะเยา ก่อนที่จะเกิดหลวงปู่นั้น
โยมแม่ได้ฝันไปว่ามีคนนำเอาลูกแก้วซึ่งมีสีสว่างใสนวลสวยงามมากมามอบให้ท่าน
โยมแม่จึงตกใจตื่น
ท่านจึงตั้งชื่อลูกชายว่า แก้วมา
(ภายหลังนิยมเรียกท่านว่า
ครูบาแก้ว)
เมื่อวัยเด็กท่านเป็นคนเรียบร้อย
ไม่ค่อยพูด เหนียมอาย ชอบทำบุญอยู่เสมอจึงเป็นที่หมายตาของสาว ๆ
ประจำหมู่บ้าน
มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนท่านชวนท่านไปดักปลา พอเพื่อนหลวงปู่จับปลาได้
หลวงปู่ก็แอบปล่อยปลาอยู่เสมอ หรือแกล้งทำหลุดไปบ้าง ท่านไม่อยากให้ทำบาป
หลวงปู่ท่านเคยมีครอบครัวมาแล้วก่อนที่จะมาบวช ตอนหนุ่มท่านชอบศึกษาวิชาอาคมไสยศาสตร์มาก
ใครเก่งหรือมีวิชาดีที่ไหนท่านจะไปเรียนมาหมด
ท่านชอบศึกษาหาความรู้ใฝ่เรียนค้นคว้าอยู่เสมอ
สาเหตุที่ท่านบวชเนื่องจากว่าภรรยาคู่ชีวิตของท่านป่วยและเสียชีวิตลง ท่านจึงคิดว่าบวชให้ 7 วัน
แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบหลวงปู่เล่าว่าวันแรกที่ท่านบวชตกตอนกลางคืนขณะที่ท่านกำลังฝึกสมาธิกรรมฐานอยู่นั้น
ปรากฏว่าท่านตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อมีคนมาสะกิดท่าน ตอนแรกท่านนึกว่ามีคนมาแกล้ง
แต่พอลืมตาขึ้นท่านก็ถึงกับตะลึง
เพราะนั่นคือพวกผีเปรตมาขอส่วนบุญ
ตอนนั้นหลวงปู่แทบครองสติไม่อยู่
แต่ด้วยที่ท่านมีจิตที่แน่วนิ่งเข้มแข็งท่านจึงแผ่ส่วนกุศลไปให้ ปรากฏว่าภาพที่ท่านเห็นนั้นได้หายไป
คืนต่อมาท่านได้จำวัดแล้วฝันไปว่ามีคนมาหาท่าน มาขอบใจและนำช้างมาถวายหลวงปู่ 2 เชือก ท่านจึงรับไว้แล้วร่างนั้นก็หายไป มาทราบในภายหลังว่าคนที่มาเข้าฝันนั้นคือเปรตที่หลวงปู่อุทิศส่วนบุญให้
หลังจากที่เปรตนั้นได้โมทนาบุญแล้วก็ไปเกิดเป็นเทวดา หลังจากเป็นเทวดาแล้วก็เกิดระลึกถึงบุญคุณของหลวงปู่ที่ช่วยเหลือจึงได้นำช้างเผือกทิพย์มาถวาย
2 เชือก ปัจจุบันช้างทิพย์ทั้งสองเชือกนี้ยังอยู่คู่บารมี และปกป้องคุ้มครอง
หลวงปู่และวัดร่องดู่ตลอดมา
จากการที่ว่าหลวงปู่ท่านจะบวช
7 วัน
ท่านจึงเปลี่ยนใจโดยตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่สึกตลอดชีวิต หลวงปู่ท่านได้บวช ณ
วัดร่องดู่
โดยเจ้าอาวาสองค์ก่อนบวชให้
ท่านได้เรียนวิชาจากเจ้าอาวาสองค์เก่าจนหมดสิ้น
มีอาจารย์ดีหรือเก่งที่ไหนหลวงปู่ท่านจะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอศึกษาวิชามาจนหมดสิ้น
หลวงปู่มีตำราเก่าแก่ในการสร้างวัตถุมงคลตกทอดมาถึงท่านอีกด้วย ท่านนำมาศึกษาค้นคว้าจนมั่นใจว่าสำเร็จ
จึงสร้างวัตถุมงคลออกมา ปรากฏว่าศิษย์ของท่านนำไปบูชาต่างมีประสบการณ์ทางเมตตามหานิยม
โชคลาภ ค้าขาย และแคล้วคลาด
หลวงปู่ท่านเจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐานอยู่เสมอ พระกรรมฐานที่ท่านฝึกคือเตโชกสิณ (กสิณไฟ)
จึงทำให้พลังจิตของท่านกล้าแข็ง
มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยไปบวชรับใช้ท่านที่วัดร่องดู่
ผู้เขียนตอนเป็นพระเคยเห็นหลวงปู่ท่านสร้างวัตถุมงคลเพื่อแจกศิษย์ยานุศิษย์ ผู้เขียนสังเกตว่าหลวงปู่ท่านจะเคร่งมากท่านถือวิชาแบบโบราณ
ครั้งหนึ่งท่านเคยสร้างตะกรุดให้นำไปบูชา
สังเกตว่าหลวงปู่จะหาฤกษ์ที่ดีนั่งลงจารตะกรุด
โดยท่านจะกำหนดจิตไปที่เหล็กจารค่อย ๆ เขียนอักขระทีละตัว
พลังจิตของท่านมั่นคงหนักแน่นมาก
หลวงปู่ท่านเขียนยันต์ไปพร้อมกับท่องสูตรกำกับไป อักขระทุกตัวที่ท่านเขียนท่านใช้พลังจิตเพ่งกำกับลงไปเสมอ พอหลวงปู่จารเสร็จท่านก็ม้วนตะกรุด ตอนม้วนท่านค่อย ๆ
ม้วนทีละนิดพร้อมกับท่องคาถากำกับไปด้วย
พอหลวงปู่ม้วนเสร็จท่านก็ท่องคาถาจบแล้วท่านก็นำตะกรุดดอกนั้นเข้าไปปลุกเสกในกุฏิของท่านอีกที นับว่าหลวงปู่ท่านสร้างของแบบรับรองว่าไม่เอาแบบสุกเอาเผากินและมีอีกครั้งหนึ่งเป็นช่วงตอนประมาณเที่ยงคืน
ผู้เขียนยังนอนไม่หลับ
จึงลุกไปเอาหนังสือมาอ่าน
ผู้เขียนเดินผ่านกุฏิของหลวงปู่สังเกตว่าทำไมกุฏิท่านมีแสงไฟเดี๋ยวหรี่เดี๋ยวดับ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงแอบดูปรากฏว่าไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าผมเห็นหลวงปู่ท่านกำลังนั่งเพ่งเทียนอยู่
ตัวท่านนั่งตรงนิ่งไม่กระดุกกระดิกสายตาของหลวงปู่มองตรงไปที่เทียนเล่มหนึ่ง
ดวงไฟที่เทียนนั้นแปลกมาก มันสามารถดับได้ติดได้
ผู้เขียนแปลกใจมากคิดว่าท่านคงฝึกเตโชกสิณอยู่ ดูท่าทางท่านเข้มแข็งมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนเห็นหลวงปู่ท่านปลุกเสกพระ
ตอนนั้นมันดึกมากแล้ว หลวงปู่ท่านปลุกเสกพระแปลกมาก
ในมือท่านถือเทียนอยู่เล่มหนึ่งพร้อมกับท่องคาถาไปด้วย ดวงตาของท่านเพ่งไปที่เทียนเล่มนั้น
พอท่องจบท่านก็เป่าลงสู่วัตถุมงคลนั้นพร้อมกับพรมน้ำมนต์ ผู้เขียนเชื่อว่าพระที่ท่านสร้างต้องเข้มขลังแน่เพราะผู้เขียนเคยเจอประสบการณ์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม
วัดร่องดู่เป็นวัดที่เก่าแก่มากสมัยก่อนเคยมีเจดีย์เก่าแก่อยู่สองเจดีย์
แต่เดี๋ยวนี้ได้พังทลายไปแล้วเนื่องจากว่าสมัยก่อนมีคนมาขุดจึงทำให้เจดีย์พังทลายลงมา
ตอนนี้ทางวัดได้สร้างโบสถ์ทับไปแล้ว
แต่ยังเหลือร่องรอยให้เห็นคือก้อนอิฐโบราณกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณวัด วัดร่องดู่นี้มีเจ้าที่แรงมากตอนกลางคืนวันดีคืนดีจะมีดวงแก้วลอยขึ้นที่หลังโบสถ์ ผู้เขียนเคยเห็นกับตามาแล้ว
สมัยนั้นบวชรับใช้หลวงปู่อยู่ เป็นดวงไฟที่แปลกมากมันลอยขึ้นเหนือโบสถ์
ถามหลวงปู่ท่านบอกว่าเจ้าที่ที่วัดนี้แรงมาก และที่วัดนี้มีเปรตอยู่ด้วย เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ว่าท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่
โปรดพิจารณาแต่ผู้เขียนเชื่ออย่างสนิทใจเลย
เพราะมีคนแถวนั้นเห็นมาหลายคนแล้ว หลวงปู่ท่านก็เจอมา วัดร่องดู่นี้พอตกกลางคืนน่ากลัวมากมันเงียบวังเวงไม่มีใครกล้าลงจากกุฏิหรอกทั้งพระและเณร ผู้เขียนเองตอนสมัยบวชยังไม่กล้าเลย
มีก็แต่หลวงปู่องค์เดียวท่านมักจะลงไปเดินจงกลมเสมอ
ขนาดหลวงอาของผู้เขียนซึ่งบวชอยู่กับหลวงปู่ยังเคยเจอมาแล้ว พระที่วัดเจอดีมาแล้วหลายราย
และเมื่อไม่นานมานี้ทางวัดได้ขุดดินเพื่อจะสร้างศาลาอเนกประสงค์
ยังขุดเจอโครงกระดูกมนุษย์โบราณสูงเกือบ 3 เมตร
นอนในท่าเอาดาบหนุนหัวอยู่ตอนนี้ได้ส่งเข้าพิพิธภัณฑ์แล้ว
วัดร่องดู่นี้ยังมีของโบราณฝังอยู่ในพื้นดินอีกมาก เคยมีคนขุดได้พระบูชาก็มี มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านเห็นว่าต้นหญ้ารก
ท่านจึงเอาเสียมไปถางหญ้าปรากฏว่าไปถางโดนวัตถุบางอย่าง
ท่านจึงได้ขุดดูปรากฏว่าเป็นพระพุทธรูปท่านจึงนำมาไว้บูชา เป็นพระพุทธรูปเก่ามากสมัยเชียงแสน แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าตกไปอยู่ที่ใคร
และเคยมีเรื่องระทึกใจอยู่ครั้งหนึ่งที่ว่า
มีพระรูปหนึ่งมาบวชอยู่ที่วัดร่องดู่นี้ชอบให้หวยมาก
ท่านจะหากระดาษมาเขียนเป็นตัวเลขแล้วม้วนนำไปหยอดในรูบึ้ง
(เป็นแมลงชนิดหนึ่งทางเหนือเรียกว่าอีบึ้ง) ซึ่งอยู่ข้างหลังโบสถ์ พอตกกลางคืนพระรูปนั้นเกิดอาการผิดปกติ
ทำตาขวาง ปวดท้อง เหมือนโดนของ
โดนผีเข้าพระเณรในวัดจึงเรียกให้หลวงปู่มาดู
พอหลวงปู่มาดูท่านนั่งหลับตาทำสมาธิสักพักท่านก็รู้ว่าพระรูปนั้นเป็นอะไร
ท่านจึงทำน้ำมนต์มารดและให้พระรูปนั้นดื่มตอนแรกพระรูปนั้นถึงกับดิ้นใหญ่แล้วก็เงียบไป
พอรู้สึกตัวหลวงปู่ก็เล่าให้ฟังว่าเจ้าที่ที่วัดนี้เขาหวงและแรงมาก พระรูปนั้นก็เลยเข็ดไปอีกนาน
จะพูดถึงอภินิหารของหลวงปู่นั้นก็มี
ตอนที่ผู้เขียนไปบวชได้มีพระที่บวชอยู่ก่อนพูดให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่บ้านร่องดู่ฝนไม่ตกตามฤดูกาลแห้งแล้งมาก เขาจึงนิมนต์หลวงปู่ให้ไปทำพิธีขอฝน โดยไปทำกันบนเขาที่อยู่ใกล้วัดร่องดู่ หลวงปู่นั่งหลับตาไปพร้อมกับท่องคาถาแทบไม่น่าเชื่อ
ปรากฏว่าแสงแดดที่สว่างจ้าก็เริ่มมีเมฆหมอกครึ้ม อากาศที่ร้อนอบอ้าว ก็มีลมพัดเริ่มมีเสียงฟ้าร้อง สักพักฝนก็ตกลงมา
ชาวบ้านต่างดีใจกันใหญ่เรื่องนี้ผู้เขียนเคยถามหลวงปู่ว่าท่านเรียกฝนได้หรือ
ท่านยิ้มอย่างมีเมตตาและตอบว่า
มันจะยากอะไรก็คาถามันมีนี่
ผู้เขียนถึงกับงงเลย
ผู้เขียนคิดว่าหลวงปู่ท่านคงจะสำเร็จแล้วแน่นอนท่านถึงทำได้ ตอนนั้นหลวงปู่ท่านอายุก็ปาไปตั้ง 82
ปี
แต่หลวงปู่ยังเดินเหินคล่องแคล่วดูท่านยังแข็งแรงมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยเห็นท่านสร้างวัตถุมงคลออกมาหลวงปู่นำมาแจก ท่านมักจะพูดเสมอว่าพระชุดนี้ดีนะ
ท่านปลุกเสกเต็มที่ใช้ได้ 108 แล้วแต่จะอธิษฐานใช้ หลวงปู่ท่านมีสมาธิและพลังจิตกล้าแข็งมาก
ผู้เขียนเชื่อว่าพระที่ท่านสร้างต้องดีแน่และไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน ผู้เขียนมีวัตถุมงคลของท่านแขวนบูชาติดตัวเกือบทุกรุ่นได้รับจากมือท่านตั้งแต่สมัยตอนบวชจนสึกออกมาก็ยังไปหาวัตถุมงคลของท่านที่สร้างออกมาไว้บูชาเสมอ
เพราะผู้เขียนเชื่อว่าพระที่หลวงปู่สร้างออกมาแต่ละองค์นั้น
มีพุทธคุณมากมายจริง ๆ ผู้เขียนเจอกับตัวเองมาแล้ว
เคยถามหลวงปู่ว่าพระที่ท่านสร้างนั้นเวลาปลุกเสกแล้วมีพลังหรือไม่ ขลังหรือยัง
หลวงปู่รู้ได้ยังไง ท่านตอบอย่างเมตตาว่า
หลวงปู่ปลุกเสกพระท่านจะปลุกเสกไปจนเสร็จพิธี
แล้วท่านก็จะนั่งสมาธิดูว่าพุทธคุณเต็มหรือขลังแล้วจะมีแสงสีฟ้าหรือเขียวขึ้นอยู่เต็ม
หรือรอบองค์พระถ้ามีขึ้นน้อยท่านก็จะปลุกเสกต่อไปเรื่อย ๆ จนเต็ม
วัตถุมงคลที่หลวงปู่เชี่ยวชาญและถนัดมากในการทำคือ
ตะกรุด อิ่น ขุนแผน หลวงปู่ท่านสร้างได้เข้มขลังมาก
ลูกศิษย์ของท่านต่างรู้ดี
วัตถุมงคลทุกชิ้นที่หลวงปู่ปลุกเสกท่านจะเน้นพุทธคุณสูง
ให้ผู้นำไปใช้ได้เจอของจริงมีประสบการณ์แบบจะ ๆ ท่านจะสร้างออกมาแล้วหลายรุ่นคือ
อิ่น ตะกรุด ผ้ายันต์ เทียนสืบชะตา พระขุนแผน พระสมเด็จ
พระรูปเหมือน พระปิดตา สีผึ้ง วัวธนู
และยังมีวัตถุมงคลอีกหลายชนิดที่ยังไม่ได้เขียนถึงในครั้งนี้
วัตถุมงคลทุกชิ้นหลวงปู่สร้างน้อยมาก
บางชิ้นมีไม่ถึงสิบองค์
วัตถุมงคลบางองค์ก็มีราคาเกือบครึ่งหมื่น ยังไม่มีคนปล่อย
เพราะหายากแถมมีประสบการณ์สูงอีกด้วย
เป็นพระขุนแผนรุ่น 2 พิมพ์กรรมการ สร้างด้วยผงพุทธคุณล้วน สร้างไม่ถึง 10 องค์รุ่นนี้หายากมาก ผู้ที่มีต่างหวงแหนไม่ยอมให้หลุดมือ
คนที่มีส่วนมากจะนับได้เลยว่ามีใครที่ได้ไปบ้าง พระขุนแผนรุ่นนี้ลูกศิษย์ของท่านบางคนมีคนมาขอบูชาประมาณครึ่งหมื่นเขายังไม่ขาย มีประสบการณ์มากมายทางเมตตาค้าขาย
หลวงปู่ท่านยังเคยบอกว่า พระชุดนี้หลวงปู่ปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ (ยังบ่อิใจ๋ออกหน๋า) ผู้เขียนได้ยินกับหูมาแล้ว
จึงเชื่อและนับถือหลวงปู่มากขึ้น
ผู้เขียนขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับวัตถุมงคลของหลวงปู่ว่า มีอะไรบ้าง
วัตถุมงคลยุคแรกที่หลวงปู่สร้างและดังมานานคงเป็นตะกรุดโทน
ตะกรุดเมตตา ตะกรุดสาริกา ตะกรุดกำสะท้อน
ตะกรุดผูกคอเด็ก กันเด็กร้องในตอนกลางคืน ตะกรุดกันคุณไสย ตะกรุดกันผี
และผ้ายันต์ที่หลวงปู่สร้างมากคือ ผ้ายันต์ม้าเสพนาง
หลวงปู่จะสร้างแจกเฉพาะลูกศิษย์ของท่าน ผ้ายันต์รับทรัพย์ ผ้ายันต์เมตตา ผ้ายันต์อิ่นแก้ว ผ้ายันต์ทางแคล้วคลาด คงกระพัน
วัตถุมงคลทุกชิ้นหลวงปู่ท่านจะจารด้วยมือทุกชิ้นและปลุกเสกเดี่ยว
มีประสบการณ์สูงทุกชิ้น
วัตถุมงคลที่เป็นพระยุคแรกคือ พระสมเด็จ พระสมเด็จยุคแรกนี้สร้างทั้งหมด 50
องค์
แจกเฉพาะลูกศิษย์ไม่ค่อยสวยเพราะแกะบล๊อกด้วยมือและปั๊มกันในวัด มีมวลสารหลายชนิด
ผู้เขียนจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง
สมเด็จชุดนี้พอหลวงปู่ปลุกเสกเสร็จท่านนำไปแจกลูกศิษย์ลูกหาของท่านและหมดไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันหายากมาก ด้านหลังสมเด็จชุดนี้หลวงปู่บรรจุตะกรุดสาริกา 1 ดอก
สมเด็จชุดนี้ได้มีเณรที่วัดอยู่รูปหนึ่ง ซนมากได้นำพระสมเด็จไปหักเล่น
ปรากฏว่าตอนกลางคืนเณรรูปนี้จำวัดและฝันไปว่าเห็นพระสมเด็จองค์ที่หักลอยลงมาทับตัว จึงตกใจสุดขีดทำให้ไม่สบายไปหลายวัน
ทำยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายต้องไปขอขมากับหลวงปู่ จึงหาย
ได้มีหนุ่มคนหนึ่งทำงานเป็นกุ๊กอยู่ร้านอาหารชอบลองวิชาพระเสมอ
เคยได้รับตะกรุดจากหลวงปู่ไปเขาผู้นั้นนำไปใส่ในมือแล้วท่องคาถาปลุกดู
(ชายคนนี้เคยบวชมาแล้ว)
ปรากฏว่าของขึ้น ตกตอนกลางคืนเขาก็ฝันไปว่า มีสุนัขมาทำตาขวางใส่ ดวงตาของมันแดงก่ำมันทำท่าโกรธมากและกระโดดกัดที่ลำคอเขา
ทำให้ชายคนนี้ตกใจมาก
ทำให้เขาไม่สบายไปหลายวันเขาจึงจุดธูปอาราธนานึกถึงหลวงปู่ขอขมา เขาจึงหายเป็นปลิดทิ้ง จากนั้นมาเขาไม่กล้าลองอีกเลย
พระทุกรุ่นที่หลวงปู่ครูบาแก้วท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกล้วนแล้วแต่ทรงไว้ซึ่งความเข้มขลังและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งมหาพุทธานุภาพอย่างแท้จริง
คงจะเป็นบารมีของหลวงปู่ที่สร้างมาท่านจึงสร้างวัตถุมงคลได้เข้มขลังมีประสบการณ์มากมายให้เห็นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน ครบทุกด้าน
และมีคนชอบไปให้หลวงปู่ท่านทำพิธีสะเดาะเคราะห์กันมาก ท่านชำนาญจริง ๆ
ท่านจะทำน้ำมนต์ให้กับผู้นั้นนำไปอาบและจุดเทียนสืบชะตาเขียนชื่อให้ได้ผลมาแล้ว
น้ำมนต์หลวงปู่และเทียนของหลวงปู่ท่านดังมาก มีคนมาให้ท่านทำเสมอ
วิธีสะเดาะเคราะห์นี้ท่านจะทำให้ทุกคนที่ไปหาท่าน โดยท่านจะจดชื่อไว้แล้วนำไปสวดตามคาถาที่ท่านเรียนมา
ผู้ที่ไปทำถ้ามีเคราะห์หนักก็จะเบาลงหรือหายไป ผู้ไม่มีโชคก็จะมีโชคลาภมีบารมี
ได้ตำแหน่งหน้าที่การงานดี คนเห็นรักใคร่เมตตา ใครเจ็บป่วยหรือโดนของโดนยาสั่งก็จะหายไป
หลวงปู่ท่านทำให้ทุกคนโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ
มีอยู่ครั้งหนึ่งมีโจรขึ้นไปขโมยเงินในกุฏิหลวงปู่
หลวงปู่มาเห็นเข้าโจรนั้นจึงได้จับหลวงปู่มัด กำลังจะนำเงินหลบหนี
โจรคนนั้นเกิดอาการผวาอย่างสุดขีด ร้องและล้มลงกับพื้นปัสสาวะอุจาระแตก
น้ำลายฟูมปาก หลวงปู่เห็นอย่างนั้นจึงบอกว่าหยุดได้แล้วสงสารเขา
พอดีช่วงนั้นมีคนเข้ามาเห็นพอดีจึงตะโกนเรียกคนให้มาช่วยกันจับโจร
พอชาวบ้านแถวนั้นมากันหลายคนก็จะรุมทำร้ายโจรหลวงปู่ก็ได้ห้ามไว้และขออโหสิกรรมให้และบอกให้ปล่อยไป
โจรคนนั้นพอได้สติก็เข้าไปกราบขอขมาหลวงปู่
หลวงปู่ท่านก็เข้าไปนำตะกรุดคาดเอวมา 1 เส้น และผูกให้กับโจรนั้นและบอกว่าต่อไปอย่าทำบาปอีกนะ
ให้กลับตัวเป็นคนดี
มาทราบภายหลังหลวงปู่บอกว่าที่โจรมันโดนเป็นแบบนั้นเป็นเพราะช้างเผือกทิพย์คู่บารมีหลวงปู่ทั้งสองเชือกทำร้ายเพราะมันมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองหลวงปู่
พอหลวงปู่ท่านบอกให้หยุดช้างจึงหยุดตามคำสั่ง หลวงปู่ท่านมีมหาเมตตาบารมีจริงๆ
มาในภายหลังหลวงปู่บอกว่าการปลุกเสกกุมารทอง วัวธนู
ในสมัยก่อนต้องเรียกจิตหนุนธาตุ เรียกอาการ 32 และปลุกเสกให้เกิดจิตเกิดตน
แต่มาสมัยนี้หลวงปู่บอกว่าการเสก แค่นำรูปภาพ ที่เป็นกุมารทอง หรือหุ่นของกุมารทอง
มาให้หลวงปู่เพียงแค่หลวงปู่นึกขึ้นว่าให้เกิดกุมารขึ้น รูปภาพนั้นก็เกิดกุมารทองขึ้นมีจิต
มีตนมีฤทธิ์ทันที เป็นที่น่ามหัศจรรศ์ยิ่งแสดงว่าพลังจิตของหลวงปู่สูงมาก
ยากที่จะมีผู้ใดในแผ่นดินในยุคนี้ที่จะมีพลังจิตสูงถึงเพียงนี้
หรือแม้แต่การปลุกเสกวัตถุมงคลช่วงหลังหลวงปู่ไม่จำเป็นต้องจับสายสิญน์ปลุกเสกนานๆ
อย่างที่เขาทำกัน หลวงปู่เพียงแค่กำหนดจิตและท่องคาถาไม่กี่คำแล้วเป่าลงไป
วัตถุมงคลนั้นก็ทรงความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับปลุกเสกมาอย่างดีเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งมหาพุทธานุภาพอย่างน่าอัศจรรย์
มีอยู่ครั้งหนึ่งมีลูกศิษย์หลวงปู่เห็นรูปหล่อของหลวงปู่ที่มีอยู่เกิดรมดำลอกไปตรงหัวเข่า
จึงคิดที่จะรมใหม่ให้ดำเหมือนเดิม จึงได้นำไฟแช๊คมาลนจนดำ
อีกไม่กี่วันศิษย์คนนี้ก็ได้เดินทางไปหาหลวงปู่ที่กุฏิ
พอหลวงปู่เห็นก็ทักขึ้นทันทีว่าเมื่อคืนวันก่อนร้อนหัวเข่าเหมือนมีคนเอาไฟมาลน
ลูกศิษย์คนนั้นถึงกับตกใจบอกหลวงปู่รู้ได้อย่างไร หลวงปู่ก็บอกว่าวัตถุมงคที่หลวงปู่อธิษฐานจิตปลุกเสกไปทุกอย่าง
หากมีเหตุเภทภัยใดๆเกิดขึ้นกับผู้ที่มีพระของหลวงปู่ จิตของท่านจะไปช่วยได้ทันที
วัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น แม้แต่ผู้ที่มีวิชาอาคม
หรือพระที่มีวิทยาคมสูงอยู่แล้วสามารถปลุกเสกวัตถุมงคลให้ขลังศักดิ์สิทธิ์ได้ท่านเหล่านั้นมาเห็นวัตถุมงคลที่หลวงปู่ครูบาแก้วปลุกเสก
ยังกล่าวชื่นชมในพลังมหาพุทธานุภาพที่หลวงปู่บรรจุไว้
และท่านเหล่านั้นขนาดมีวิชาอาคมแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่หาวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาแก้วมาไว้บูชา
ผู้อ่านก็คิดเอาเองนะครับว่าขนาดไหน นอกจากท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีพระเวทย์วิทยาคมแก่กล้า
มีพลังจิตญานขั้นสูงแล้ว หลวงปู่ท่านยังเป็นพระอริยสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควรแก่การสักการบูชากราบไหว้เป็นอย่างยิ่งครับ
หากท่านมีเรื่องเดือดร้อน มีความทุกข์ หรือมีปัญหาใดๆในชีวิต
ลองอธิษฐานขอบารมีท่านช่วยซิครับ
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่ประจักษ์แก่ผู้ใช้บูชา
มีทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากต่างเดินทางไปหาหลวงปู่เพื่อบูชาวัตถุมงคล
วัตถุมงคลหลายอย่าง ที่ท่านเห็นหลักร้อยในเวปไซท์ของศูนย์พระเครื่องสยามมงคล
เช่น ตะกรุดกลับดวง ตะกรุดนางเหลียว ...ฯลฯ ที่หาไม่ได้ในศูนย์พระเครื่องทั่วไปแล้ว
ทางสิงคโปร์ มาเลซีย
ต่างเสาะแสวงหาและให้ราคาเช่าบูชาสูงๆเป็นพัน เป็นที่เสาะแสวงหาและได้รับความนิยมกันมาก
หลังจากที่หลวงปู่ครูบาแก้วได้อาพาธด้วยโชคชราและเข้ารับการรักษาใน
รพ. หลายวัน ท่านก็ได้ละสังขารลง เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ธ.ค. 2550 ประมาณ 4 ทุ่ม ด้วยอาการสงบโดยท่านภาวคำว่า พุทโธ ไปจวบจนลมหายใจสุดท้าย
ขุนแผนพญาอิ่นแก้วรุ่นแรก
สุดยอดแห่งมหาเสน่ห์ มหาหลง
ตะกรุดนางเหลียวสุดยอดแห่งมหาเสน่ห์
เมตตามหานิยม
วัวธนูรุ่นแรก สุดยอดแห่งวัวธนู
สนใจเช่าบูชาูวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาแก้ว
Click ที่นี่ได้เลยครับ